Category: เกี่ยวกับประวัติศาสตร์

  • เยี่ยมเมืองหลวงเก่า เมืองเมคเนส
    ระหว่างท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ในประเทศโมร็อคโค เราอาจจะมองข้ามเมืองเล็กๆ ไปอย่างน่าเสียดาย เมืองเมคเนส ที่เราจะนำเสนอในวันนี้ก็เป็นเช่นนั้น ส่วนใหญ่แล้วเมืองนี้นักท่องเที่ยวมักจะมองว่าเป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้นเอง แต่เมืองนี้ก็มีอะไรน่าสนใจซ่อนอยู่เยอะเหมือนกัน ที่สำคัญเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าด้วยนะ เมืองหลวงอายุสั้น เมืองเมคเนส เมืองเมคเนส เรานิยมได้เลยว่าเป็นเมืองหลวงอายุสั้นจากหน้าประวัติศาสตร์ เมืองเมคเนสแห่งนี้เป็นเมืองหลวงช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่ว่าเมืองหลวงแห่งนี้กลับมีอายุสั้นมากเพียงแค่ 50 ปีเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามระยะเวลา 50 ปีตรงนั้นก็มีการสร้างสถาปัตยกรรมต่างให้เราไปเยี่ยมชมได้เหมือนกัน กำแพงเมือง และประตูเมือง สำหรับเมือง เมคเนส นั้นไฮไลท์สำคัญของเมืองต้องเป็นกำแพงเมือง และประตูเมืองอย่างแน่นอน เมืองนี้สร้างกำแพงเมืองล้อมรอบเมืองยาวถึง 40 กิโลเมตรด้วยกัน มีประตูเมืองมากถึง 7 ประตู แต่ละประตูนับว่าเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามทุกประตู แต่ถามว่าประตูไหนต้องไปให้ได้ เรายกให้ประตูบับมันซู ประตูนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลย ประตูถูกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โมร็อคโค กระเบื้องสีเขียว ตัดกับลวดลายไม้ นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจริง ส่วนประตูอื่นก็ตกแต่งคล้ายกันแต่ว่ามีขนาดเล็กกว่า (มีแค่ตรงประตูเท่านั้นไม่ได้ประดับเป็นซุ้มประตูเหมือนกับประตูใหญ่) น่าเสียดายว่า ประตูบับมันชู มันถูกตกแต่งแค่ประตูกับด้านข้างเท่านั้น ไม่ได้ตกแต่งไปถึงกำแพงเมืองด้วย แต่ก็ต้องเข้าใจนะว่าคนที่ปกครองเมืองตอนนั้นชื่นชอบสงครามมาก แต่งได้แค่นี้ก็ถือว่าโอเคแล้วแหละ น่าเสียดายอีกอย่างหนึ่งคือเค้าไม่ค่อยบูรณะเท่าไร ประตูสัญลักษณ์ของเมืองขนาดนี้แต่มีความเก่าทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ยิ่งประตูอื่นยิ่งเก่ากว่า ถ้าช่วยกันรักษาไว้คงดีกว่านี้ สถาปัตยกรรมรอบเมือง เมืองเมคเนส… Read more: เยี่ยมเมืองหลวงเก่า เมืองเมคเนส
  • เจมาเอลฟนา ลานกว้างแห่งวัฒนธรรม
    ประเทศโมร็อคโค หลายคนอาจจะเพียงแค่ได้ยินชื่อเท่านั้นอาจจะไม่รู้จักว่า ประเทศนี้มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง ซึ่งประเทศโมร็อคโคนี้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีวัฒนธรรมน่าสนใจมาก โดยเฉพาะเมืองมาราเกซ เมืองแห่งนี้ชูความโดดเด่นเรื่องวัฒนธรรมกลิ่นอายโมร็อคโคอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดสำคัญของเมืองนี้คือ เจมาเอลฟนา เจมาเอลฟนา ศูนย์กลางของเมือง เจมาเอลฟนา จัดว่าเป็นพื้นที่สำคัญของการท่องเที่ยวโมร็อคโคเลย พื้นที่ต้องนี้เป็นลานกว้างใจกลางเมืองมาราเกซ ทางรัฐบาลได้มีการผ่อนปรนกฏบางอย่างของพื้นที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนปรนด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้น อีกทั้งยังสร้างให้บริเวณนี้เป็นจุดศูนย์รวมของการพักผ่อนหย่อนใจ และสร้างจุดเด่นอื่นอีกมากมายเพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ซึมซับกลิ่นอายโมร็อคโคขนานแท้ อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า เจมาเอลฟนา นั้นทางรัฐบาลต้องการทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ก็เลยมีการคงอยู่ของวิถีชีวิตโมร็อคโคขนานแท้เอาไว้ด้วย หากเราได้ไปเราจะได้เห็นอะไรหลายอย่างที่เป็นโมร็อคโคจ๋าเลย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงข้างถนน อาหารการกิน ของฝาก ของที่ระลึก ที่ไม่เหมือนใครและเป็นสิ่งแสดงตัวตนของพวกเค้าอย่างมาก แนะนำว่าควรไปช่วงเย็นๆ ถึงหัวค่ำกำลังดี จะได้หาอาหารกินด้วย ชมพระอาทิตย์ตก และ หลีกเลี่ยงอากาศร้อน อีกอันหนึ่งต้องบอกกันไว้ก่อนเลยคือการโชว์ต่างๆ นี่หากจะไปถ่ายรูปนี่ เค้าเก็บตังค์นะ แถมเร็วซะด้วย เครื่องดื่มแปลกลิ้น มาถึงถิ่นโมร็อคโค กลางเมืองทั้งทีถามว่าลองกินอะไรดี จริงๆ มีหลายอย่างแนะนำให้กิน แต่เราขอเสนอเครื่องดื่มเบาๆ ก็แล้วกัน อย่างแรกเป็นน้ำส้มคั้น ราคาประมาณ 4Dh(หน่วยเงินของโมร็อคโค) อันนี้รสชาติก็พอได้กินดับร้อน แต่น้ำส้มคั้นบ้านเค้าไม่เหมือนของเราเลยนะ อีกหนึ่งเมนู ให้ลองกันเลยนั่นคือ ชาใส่ใบมินต์ รสชาติบอกไม่ถูกจริงๆ ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย… Read more: เจมาเอลฟนา ลานกว้างแห่งวัฒนธรรม
  • ซากอารยธรรมโรมัน ณ เมืองโวลูบิลิส
    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อารยธรรมโรมันในช่วงรุ่งเรืองนั้น พวกเค้าแผ่ขยายอำนาจไปกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน แถมร่องรอยอารยธรรมบางอย่างนั้นยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันด้วย หากเราเป็นคนหนึ่งที่อยากตามรอยอารยธรรมโบราณแห่งนี้ เมืองโวลูบิลิส (Volubilis) ของประเทศโมร็อคโคเป็นอีกหนึ่งปลายทางสำคัญ เรื่องราวของเมือง Volubilis  เมืองโวลูบิลิส มาย้อนอดีตกันสักหน่อยเพื่อให้การท่องเที่ยวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เมืองนี้หากย้อนไกลเลยบางแห่งอ้างว่าเมืองนี้สร้างขึ้น 300 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว เมืองนี้ถูกปกครองด้วยอารยธรรมโรมัน เหมือนเมืองอื่นๆ แต่ว่าโดนทิ้งร้างไป เนื่องจากว่าประเทศโมร็อคโคมีการย้ายเมืองหลวงบ่อย (ตามกลุ่มอำนาจที่เค้ามาควบคุมประเทศตอนนั้น) เลยทำให้บางเมืองเกิดใหม่ บางเมืองถูกทอดทิ้งไว้เช่นเมืองนี้เป็นต้น หลังจากถูกทิ้งไว้นานจนกระทั่งกษัตริย์พระนามว่า Idris ibn Abdallsh ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ Idrisid มาพบเข้าท่านจึงมีดำริให้บูรณะรักษาเอาไว้ ลักษณะภายในเมือง เมืองนี้จะว่าไปหลายคนอาจจะมองข้ามไปเนื่องจากว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แต่ว่าภายใต้ซากบ้านเรือนนั้นมีอารยธรรมซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซากบ้านเรือนสไตล์โมร็อคโค หรือจะเป็นพื้นกระเบื้องโมส สองอย่างนี้ถูกรักษาไว้อย่างดี แม้ว่าจะมีบางส่วนเสียหายไปบ้างจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็ตาม ไปดูอะไรกันในเมืองโวลูบิลิส หลายคนอาจจะสงสัยว่า เมืองโวลูบิลิส เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แล้วเค้าไปดูอะไรกัน คำตอบคือเค้าจะไปดูซากปรักหักพังนั่นแหละ ซากเหล่านั้นคือแหล่งร่องรอยอารยธรรมที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่งของประเทศนี้เลย พื้นโมเสกยังคงชัดเจนสมบูรณ์จนนักธรณีวิทยายังบอกเลย (ลวดลายบางจุดชัดเจนมาก จนเราเองอดคิดไม่ได้ว่าเค้าสร้างจากอะไรทำไมมันถึงคงทนถาวรมาเป็นพันปีได้) รวมถึงเสา Basilica ตามลักษณะของโบสถ์โรมันเราก็ยังเห็นได้จากที่นี่ด้วย น่าเสียดายว่าเสาหลายต้นโดนยกไปไว้ที่เมืองเฟสแล้ว ไม่งั้นจะสมบูรณ์กว่านี้ แม้ว่าจะพังเสียหายไปมากแต่ห้องหับต่างๆ ก็ยังพอหลงเหลือให้เรารู้ว่าเคยเป็นห้องอะไรมาก่อน ส่วนมากจะเป็นห้องเกี่ยวกับการทำเกษตรกรรมเพราะว่าเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นในฐานะเมืองเกษตรกรรม อีกจุดหนึ่งน่าสนใจมาก… Read more: ซากอารยธรรมโรมัน ณ เมืองโวลูบิลิส